1. เทคโนโลยีป้องกันรถยนต์
ความปลอดภัยของรถเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ เมื่อก่อนเราอาจจะเห็นการล็อครถด้วยรูปแบบต่างๆ กุญแจที่มีระบบความปลอดภัยขั้นสุดยอด แต่ในอนาคตเชื่อว่าการใช้เทคโนยีสแกนม่านตาเข้ามาเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของรถยนต์มาแน่นอน อีกหน่อยเราไม่ต้องพกกุญแจรถด้วยซ้ำ ใช้การแสกนม่านตาด้วยการยืนหน้าไปที่กระจกฝั่งคนขับเพื่อตรวจสอบแล้วก็เปิดรถ จากนั้นก็ใช้ปุ่มแสกนนิ้วมือแล้วก็สตาร์ทไปเลยพร้อมกัน หากไม่ใช่เจ้าของก็จะไม่สามารถขับรถคันนี้ได้
2. การให้บริการ AI (Artificial Intelligence)
Artificial Intelligence หรือ AI เป็นหนึ่งในการพัฒนาเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดที่สุดในยุคของเราเลยทีเดียว ปัจจุบันนี้มีหลากหลายบริษัทที่เริ่มศึกษาการใช้ AI โดยหวังว่าจะเอามาช่วยเหลือตั้งแต่เรื่องของ customer experience ไปจนถึงการจัดการ business operation เทรนด์นี้จะยังคงเป็นที่นิยมสุดๆในปี 2020 โดยมนุษย์จะเริ่มคุ้นเคยกับการทำงานกับ AI มากขึ้นไปอีก แต่การพัฒนาระบบ AI ของแต่ละบริษัทนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาล ด้วยเหตุนี้นี่เองที่บริการของ AI ส่วนมากจะถูกใช้งานผ่าน provider เช่น การคำนวณหาต้นทุนด้วย AI algorithm อย่างง่าย เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันบริการที่ได้รับจาก provider อย่าง Amazon, Google, และ Microsoft จะยังเป็นบริการที่ค่อนข้างกว้าง และมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อนำมาใช้ในธุรกิจ ในปี 2020 นี้ เราจะได้เห็น provider มากขึ้น ที่มาพร้อมการบริการที่หลากหลายขึ้น ก็จะถึงคราวที่การบริการต่างๆจะเริ่มแคบและลึกลง จนทำให้ทุกบริษัทต้องใช้ AI อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในที่สุด
3. เครือข่าย 5G
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตยุค 5G จะเป็นยุคที่ทำให้การดาวน์โหลดต่างๆรวดเร็วสุดๆ ทั้งยังเสถียรมากขึ้นอีกด้วย ถึงแม้ว่า 5G จะเริ่มเข้ามาครั้งแรกในปี 2019 แต่ก็ยังมีราคาที่สูง และให้บริการเฉพาะบางพื้นที่หรือเมืองใหญ่ ในปี 2020 นี้ จะเป็นปีของ 5G อย่างแท้จริง ด้วยทั้งราคาที่จับต้องได้ และพื้นที่ครอบคลุมที่มากขึ้น ความเร็วของอินเตอร์เน็ตไม่เพียงทำให้เราโหลดหนังฟังเพลงได้เร็วขึ้นเท่านั้น ความเร็วที่เพิ่มขึ้นยังหมายถึงการติดต่อสื่อสารที่ดียิ่งกว่าการโทรศัพท์แบบเดิมๆอีก บริษัทมากมายจะเริ่มนำเอาการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงนี้มาใช้ในทุกๆที่ อีกทั้ง bandwidth ที่มากขึ้นก็จะช่วยให้โรบอตต่างๆ รวมถึงรถยนต์ไร้คนขับสามารถเก็บและโอนย้ายข้อมูลในจำนวนที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยที่เดียว นี่ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนา Internet of Things และสมาร์ทแมชีนต่างๆต่อไป
4. รถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Driving)
ถึงแม้ว่าเราอาจจะยังไม่ได้เห็น หรือได้เดินทางด้วยยานภาหนะไร้คนขับในปี 2020 สิ่งเหล่านี้ก็กำลังเข้ามาสร้างความตื่นเต้นให้มนุษย์อย่างปฎิเสธไม่ได้จริงๆ Elon Musk คาดหวังไว้ว่า อยากจะให้ Tesla ของเค้าสามารถพัฒนารถยนต์ที่ไร้คนขับอย่างสมบูรณ์แบบให้สำเร็จภายในปีนี้ และพวกเราก็อาจจะได้เห็นรถยนต์ที่มีฟังก์ชันอัตโนมัติต่างๆ เช่นการเบรกอัตโนมัติ จนชินตามากขึ้น นอกจากนี้ ฟังก์ชันด้านอื่นที่อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน เช่น ด้านความปลอดภัย หรือความบันเทิง จะถูกพัฒนาให้เป็นอัตโนมัติโดยอิงจากข้อมูลจริงของผู้ใช้ ผนวกกับการวิเคราะห์จากระบบ
5. การแพทย์และยาเฉพาะบุคคล (Personalized Medicine)
เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงการแพทย์ของเราอย่างรวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อเราสามารถเก็บข้อมูลจากเครื่องมือที่เราสวมใส่ เช่น smart watch ได้ ก็ทำให้เราสามารถทำนาย และจัดการกับปัญหาทางสุขภาพได้ก่อนที่คนไข้จะรู้สึกถึงอาการเสียด้วยซ้ำ ถ้าหากเราจะพูดถึงเรื่องการรักษาแล้ว แน่นอนว่าเราจะได้เห็นวิธีการรักษาที่เฉพาะบุคคลมากขึ้น ซึ่งเราจะเรียกสิ่งนี้ว่า Precision medicine (ยาที่มีความแม่นยำสูง) ซึ่งแพทย์สามารถจ่ายยาและรักษาผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ ต้องขอบคุณการวิเคราะห์ข้อมูลในสมัยนี้ ที่สามารถระบุได้ว่ายาตัวไหนจะดีกับผู้ป่วยคนไหนมากน้อยขนาดไหน
6. คอมพิวเตอร์วิทัศน์ (Computer Vision)
Computer Vision หมายถึงระบบที่สามารถระบุสิ่งของ สถานที่ หรือคนได้จากภาพที่มาจากกล้องหรือเซ็นเซอร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้กล้องจาก smartphone จับโฟกัสที่หน้าคน ในปี 2020 เราจะได้เห็นเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆที่นำเอา Computer Vision มาติดตั้งเพื่อการใช้งานต่างๆมากมาย เช่น การนำมาใช้กับรถยนต์ไร้คนขับเพื่อตรวจจับสิ่งกีดขวาง นำมาตรวจจับสินค้าที่มีปัญหา ในปี 2020 นี้ ที่ Computer Vision จะขยายตัวขึ้นอย่างเป็นวงกว้าง แต่ก็ทำให้เกิดประเด็นที่ต้องถกเถียงกันในเรื่องของความเป็นส่วนตัว
7. เทคโนโลยีโลกเสมือน (Extended Reality)
XR เป็นศัพท์ใหม่ที่เราใช้เรียกเทคโนโลยีใหม่ๆหลายๆอย่างที่ช่วยสร้าง digital experience ซึ่งก็คือ Virtual Reality (VR), Augmented Reality (AR), และ Mixed Reality (MR)
- VR นั้นเป็นเทคโนโลยีที่ให้ digital experience แบบเต็มรูปแบบ ผู้ใช้จะเข้าไปอยู่ในโลกดิจิตอลที่ถูกสร้างโดยคอมพิวเตอร์ผ่านทางอุปกรณ์สวมศีรษะที่ผสมผสานดิจิตอลและความเป็นจริงเข้าด้วยกัน
- AR สร้าง digital experience บนโลกและสถานการณ์จริงได้ด้วย smartphone หรือจอแสดงผลอื่นๆ ตัวอย่างง่ายๆก็คือ filter Snapchat นั่นเอง
- MR เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนามาจาก AR ที่ผู้ใช้สามารถแสดงปฏิกิริยา หรือมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งของที่เป็นดิจิตอลได้ ในโลกแห่งความเป็นจริง ตัวอย่างเช่น เล่นเปียโนดิจิตอลที่ผู้ใช้ติดตั้งไว้ในห้องของตัวเองด้วยอุปกรณ์ AR
8. เทคโลยี Blockchain (Blockchain Technology)
ถึงแม้ว่าจะมีการพูดถึงอย่างมากในปีที่ผ่านมา แต่ Blockchain ก็ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่ยากต่อการเข้าใจสำหรับหลายๆคนที่ไม่ได้ทำงานได้วงการ tech แต่ปี 2020 นี้เราคงจะได้เห็นผู้คนพูดถึงมันมากขึ้นแล้ว Blockchain เป็นบัญชีดิจิตอลที่ใช้ในการลงบันทึกการซื้อขาย และมีความปลอดภัยเป็นอย่างมากด้วยตัวของมันเองที่มีการเข้ารหัส (encrypted) และมีการ decentralized ไว้อย่างดี ในปี 2019 มีหลายๆท่านออกมาวิจารย์ว่า Blockchain นั้นเป็นเพียงแค่กระแสที่ได้รับความสนใจมากเกินไป และอาจจะไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากมายอย่างที่คาดกัน อย่างไรก็ตาม บริษัทอย่าง FedEx, IBM, Walmart และ Master Card ก็ยังคงลงทุนกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลลัพธ์ของการลงทุนนั้นก็คงจะเริ่มถูกเปิดเผยออกมาในไม่ช้า และหากว่าผลลัพธ์เป็นที่น่าประทับใจแล้วล่ะก็ นี่จะเป็นการเปิดตลาดใหม่ๆของผู้ใช้รายย่อยๆอีกมากมาย ถ้าหากว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดการณ์กันเอาไว้ ในปี 2020 นี้เราจะได้เห็น Cryptocurrency ของ Facebook เอง ที่ชื่อว่า Libra ออกมาอีกด้วย
9. เทคโนโลยีความก้าวหน้าเป็นสิ่งหนึ่งที่ก้าวเข้ามามีบทบาทกับชีวิตของคนเรามากยิ่งขึ้น เมื่อธรรมชาติเป็นสิ่งที่กำหนดทุกสิ่งทุกอย่างเองเสมอมา แต่เมื่อถึงจุดที่มนุษย์ได้ค้นพบเทคโนโลยีที่จะพัฒนาสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาได้ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นก็ได้ถูกเรียกขึ้นว่าเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งเจ้าเทคโนโลยีที่ว่ามานี้ก็ถือเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงโลกของเราให้กลายเป็นโลกที่สมบูรณ์แบบดังที่ทุกคนต้องการนั่นเอง อย่างที่ตัวชื่อเทคโนโลยีนี้บอกนั่นก็คือเทคโนโลยีชีวภาพ ถ้าหากแปลตรงตัวก็คือการนำเอาสิ่งมีชีวิตมาดัดแปลง และใช้ประโยชน์จากพันธุ์นั้น ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นเอง
10. เทคโนโลยีเปลี่ยนสีรถ
เวลาเราไปทำสีรถ เชื่อว่าหลายคนไม่อยากไปเท่าไรเพราะมันจะหมดเยอะมาก แต่ในอนาคตถ้าทำได้จริง อู่ทำสีรถอาจจะตกงานได้เลย นั่นก็คือ เทคโนโลยีเปลี่ยนสีรถแบบดิจิตอล กล่าวคือในอนาคตวัสดุภายนอกของรถอาจจะทำมาจากไฟเบอร์แบบพิเศษเชื่อมต่อกับระบบดิจิดตอลเอาไว้ ทำให้รถกลายเป็นเหมือนเครื่องฉายภาพขนาดใหญ่ สามารถสั่งให้เปลี่ยนสี เปลี่ยนลวดลาย จากแอพพลิเคชั่นบนมือถือได้เลย ทีนี้แหละอยากได้สีอะไรก็ไม่ต้องไปอู่ ไม่ต้องติดสติ๊กเกอร์ว่ารถคันนี้สีนั่น สีนี้อีกต่อไป เป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่น่าจะมาในอนาคตอีกไม่ไกลเท่าไร
ที่มาของบทความ
https://th.zaceworld.com/blogs/news/technology-trends-2020-you-must-know